วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561




สาธิตการเรียน เพียรแก้ปัญหา  ก้าวหน้าปฏิบัติ

การพัฒนาการศึกษาถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติปีพุทธศักราช 2542 ได้กำหนดเนื้อหาสาระ เพื่อปฏิรูปการศึกษาของปวงชาวไทย โดยได้จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยการจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยมีการเน้นฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาซึ่งกระบวนการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีความแตกต่างกันออกไป
 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ. 2561 ได้มีการแข่งขันทักษะงานมหกรรมการศึกษาเอกชนประจำปี 2561 ณ สหกรณ์สุราษฎร์ธานีจำกัด โดยภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการที่มีความสอดคล้องกับวิธีการสอนในหลากหลายรูปแบบซึ่งการสอนแต่ละวิธีต่างก็มีความน่าสนใจเเละเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เข้าร่วมชมนิทรรศการด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ผู้ศึกษาได้เลือกศึกษาวิธีการสอนที่ได้เล็งเห็นแล้วว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนต่อไปในอนาคตมา 3 วิธี ได้แก่ การสอนโดยการปฏิบัติ การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และ การสอนโดยการสาธิต
วิธีการสอนทั้ง3วิธีนี้ที่ได้กล่าวมาข้างต้นมีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมพัฒนาการเรียนของผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



1. วิธีการสอนโดยการปฏิบัติ (practice)  ผู้ศึกษาได้เลือกศึกษาโครงการพัฒนาสมองด้วยสองมือ จากปลายประสาทปลายนิ้ว นำสู่การสร้างรอยหยักในสมอง กับ SPORT STACKING COURSE ของโรงเรียนเทพมิตรศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการนี้จะฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยตรงโดยผ่านการลงมือปฏิบัติจริงด้วยกีฬาสแต็ค (sport stacking ) เป็นกีฬาเรียงแก้วพลาสติกซึ่งแก้วที่เรียนจะมีทั้งหมด 12 ใบ ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับกีฬาชนิดนี้โดยเฉพาะกีฬาสแต็คจะมีวิธีการเล่นทั้งแบบ Stack up คือ การเรียงขึ้น และการ Stack Down คือ การเรียงลง โดยผู้ที่เล่นกีฬาสแต็คจะมีชื่อเรียกกันว่า Stacker เวลาทำการแข่งขันจะใช้การตัดสินโดยดูจากกระบวนการเล่นที่ถูกต้อง และดูจากการทำเวลาในการเล่นที่เร็วที่สุด ถ้าหากผู้เล่นคนใดทำได้คนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ ซึ่งโครงการนี้จะเปิดสอนในระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษา โดยมีผลงานที่สำคัญ คือ รางวัลเหรียญทอง ประเภท Double Cycle รุ่นอายุ 12 ปี (สถิติเป็นอะนดับที่ 4 ของโลก) กีฬาสแต็คจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองและประสาทสัมผัสเช่น การฝึกปฏิภาณไหวพริบและการป้องกันโรคอัลไซเมอร์เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ เช่นฝึกให้ผู้เรียนมีความใส่ใจในสิ่งที่ทำและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการคิดวางแผนเพื่อพัฒนาตนเองเป็นต้น
2. วิธีการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based instruction) ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ สื่อGIGOซึ่งเป็นอุปกรณ์ตัวต่อเพื่อการศึกษาที่นำมาบูรณาการกับการสอนแบบสะเต็มศึกษา ดังต่อไปนี้ สื่อGIGOเป็นอุปกรณ์ที่สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนแบบสะเต็ม โดยให้นักเรียนคิดหาวิธีแก้ปัญหา ออกแบบ นวัตกรรมที่ต้องการสร้างโดยเริ่มคิดด้วยวิทยาศาสตร์นำความรู้วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเครื่องกลและพลังงานมาใช้งานและนำเอาคณิตศาสตร์มาอธิบายความสัมพันธ์ของอุปกรณ์ต่างๆ นำเทคโนโลยีต่างๆมาช่วยในการออกแบบแล้วสร้างเป็นชิ้นงานจริง หรือต้นแบบด้วยกระบวนการทางวิศวกรรม โดยจะช่วยให้ผู้เรียนมีความคิดวิเคราะห์ในการแก้ไขปัญหาได้ดี และยังช่วยส่งเสริมจินตนาการให้แก่ผู้เรียนได้อย่างดีเยี่ยม
3. วิธีการสอนโดยการสาธิต (Domenstration) ผู้ศึกษาได้ศึกษาการทำตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ โดยการทำปูนปลาสเตอร์นั้นครูผู้สอนจะมีการสาธิตวิธีการทำให้ผู้เรียนดูอย่างละเอียดก่อนตั้งแต่กรรมวิธีการเตรียมปูนปลาสเตอร์ โดยนำปูนปลาสเตอร์ไปผสมน้ำแล้วนำไปใส่ในพิมพ์ที่ทำมาจากยางพาราเมื่อได้เป็นรูปทรงต่างๆแล้วจึงนำมาระบายสีให้มีสีสันสวยงามหลังจากที่ผู้สอนทำการสาธิตเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติทำตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ด้วยตนเอง การสอนโดยการสาธิตนี้จะมีส่วนช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอน และยังฝึกให้ผู้เรียนคิดอย่างมีเหตุผลอีกด้วย

สรุป
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่านิทรรศการ 100 ปี การศึกษาเอกชน มุ่งมั่นเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย เป็นนิทรรศการที่มีประโยชน์แก่ผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงหลักการและวิธีการสอนที่มุ่งพัฒนาผู้เรียน สามารถฝึกทักษะการแก้ปัญหา และให้ผู้เรียน ลงมือปฏิบัติได้ และที่สำคัญคือ สามารถเป็นแนวทางให้ครูผู้สอนนำวิธีการสอนนี้ไปประยุกต์และปรับใช้ในการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และนำความรู้และทักษะไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561

รวม 5 วิธีเลือกรองพื้นสำหรับคุณสาวๆที่รักการแต่งหน้า



        วิธีเลือกรองพื้น


  รวม 5 วิธีเลือกรองพื้นสำหรับคุณสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้า ถ้าอยากจะรู้ว่าเลือกรองพื้นอย่างไรถึงจะเหมาะกับตัวเอง วันนี้มิ้วมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันค่ะ


      เครื่องสำอางสำหรับคุณสาว ๆ ถือว่าเป็นไอเทมสุดเลิฟคู่กายกันเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะ "รองพื้น" ผู้ช่วยเนรมิตความเนียนใสของใบหน้า ยิ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณสาว ๆ รักการแต่งหน้าจะขาดไม่ได้เลย เพราะไม่ว่าจะสารพัดปัญหาหน้าเป็นสิว กระ ฝ้า หรือแม้แต่จุดด่างดำต่าง ๆ รองพื้นก็สามารถกลบได้เรียบเนียนราวกับว่าผิวหน้าดีมาตั้งแต่เกิดยังไงยังงั้น แต่ทั้งนี้รองพื้นที่ว่าจะทำให้คุณสาว ๆ สวยเป๊ะหรือสวยแป้ก ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะด้วยนะบอกเลย เพราะถ้าเลือกรองพื้นดีเหมาะกับตัวเอง หน้าก็จะผ่องดูดีมีออร่าจับ แต่ถ้าเลือกผิดแล้วละก็ งานหน้าด่าง หน้าลอย หน้าเทา มีถามหาแน่ ๆ 
      ดังนั้นถ้าใครที่ไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้ วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีเลือกรองพื้นมาฝากกันแล้วค่ะ ถ้าไม่อยากพลาด ตามมาดูกันเลย



วิธีเลือกรองพื้น




1. รู้จักประเภทผิวของตัวเองเสียก่อน

          ก่อนเลือกซื้อรองพื้นสักอัน สิ่งสำคัญสาว ๆ จะต้องรู้จักผิวของตัวเองเสียก่อนว่าผิวของคุณเป็นแบบไหน เช่น คุณเป็นคนผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้เลือกชนิดรองพื้นที่มีคุณสมบัติเหมาะกับประเภทผิวของคุณที่สุดยังไงล่ะคะ โดย...

          ผิวมัน ควรเลือกรองพื้นสูตร Oil-Free ที่มีคุณสมบัติลดความมันเงา ช่วยควบคุมความมันและอำพรางรูขุมขนได้ดี

          ผิวผสม ควรเลือกรองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี และเวลาทารองพื้นควรเน้นบริเวณผิวที่แห้งกว่าบริเวณที่เป็นผิวมัน

          ผิวแห้ง ควรเลือกรองพื้นที่มีความชุ่มชื้น และมีส่วนผสมของวิตามิน A และ E อีกทั้งควรเป็นเนื้อบางเบาจะเหมาะที่สุด

วิธีเลือกรองพื้น

2. เลือกใช้รองพื้นแบบไหนดี ?

          สำหรับสาว ๆ ที่ยังงง ๆ ว่าจะเลือกใช้รองพื้นแบบไหนดี ลองมาทำความรู้จักกับชนิดของรองพื้นกันก่อนดีกว่าค่ะ ซึ่งประเภทของรองพื้นนั้น หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

          Cream Foundation เป็นรองพื้นชนิดเนื้อครีม ให้การปกปิดขั้นสูง ส่วนใหญ่เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ เพราะรองพื้นชนิดนี้จะช่วยให้การแต่งหน้าออกมาเพอร์เฟคท์ มักใช้สำหรับออกงาน หรือแต่งหน้าถ่ายรูป เป็นต้น

          Liquid Foundation รองพื้นสูตรน้ำ ตัวนี้จะบางเบากว่าชนิดครีม ปกปิดดี เหมาะกับลุคธรรมชาติ ๆ แต่งใส ๆ ในชีวิตประจำวัน

          Powder Foundation แป้งผสมรองพื้น ตลับเดียวก็เอาอยู่ เหมาะสำหรับใช้เติมหน้าระหว่างวัน

วิธีเลือกรองพื้น

3. เลือกเฉดสีรองพื้นให้เข้ากับสีผิว

          การเลือกรองพื้นไม่ให้พลาด จะต้องขึ้นอยู่กับการเลือกเฉดสีของรองพื้นให้เหมาะกับสีผิวของตัวเองด้วย โดยหลักการก็ง่าย ๆ คือเลือกรองพื้นสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวมากที่สุด เพราะมันจะทำให้ใบหน้าของคุณแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่วอก ไม่เทา ไม่ลอย แต่ทั้งนี้ถ้ายังไม่แน่ใจ หากคุณมีผิวขาว ให้เลือกสีรองพื้นที่เข้มกว่าสีผิวจริง 1 ระดับ แต่ถ้าคุณมีผิวคล้ำ ให้เลือกรองพื้นที่ใกล้กับผิวของคุณที่สุด เป็นต้น

วิธีเลือกรองพื้น

4. ทดสอบรองพื้นเพื่อความแน่ใจ

          ก่อนตัดสินใจซื้อ หากใครที่ยังไม่แน่ใจเรื่องเฉดสีของรองพื้นกับผิวหน้า แนะนำให้ทดสอบกับผิวจริงจะดีที่สุด โดยวิธีทดสอบก็คือ ให้ลองแต้มรองพื้นบริเวณใบหน้าหรือข้างแก้ม เกลี่ยให้เรียบ แล้วลองดูว่าสีรองพื้นนั้นเข้ากับสีผิวของคุณหรือไม่ ซึ่งวิธีทดสอบนี้จะทำให้คุณได้รองพื้นที่เข้ากับสีผิวจริงของคุณที่สุด ทั้งนี้ไม่ควรลองกับสีผิวมือ เพราะสีของใบหน้ากับมืออาจแตกต่างกัน อาจทำให้คุณเลือกพลาดได้

วิธีเลือกรองพื้น

5. ควรเลือกรองพื้นชนิดบางเบา แต่มีคุณสมบัติปกปิดดี

          หากสาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากมีปัญหาหน้าหนา หน้าลอย หรือระหว่างวันรองพื้นตกร่องแตกเป็นคราบ ควรเลือกซื้อรองพื้นแบบบางเบา และมีคุณสมบัติในการปกปิดร่องรอยต่าง ๆ ได้ดี ทั้งนี้นอกจากจะไม่ทำให้หน้าดูลอยและหนาแล้ว ยังจะทำให้ใบหน้าของคุณดูสวยใสเป็นธรรมชาติอีกด้วย

          รู้จักวิธีเลือกรองพื้นให้เหมาะกับตัวเองเป็นแล้ว คราวนี้ก็ไปช้อปปิ้งจัดรองพื้นมาไว้ในกรุกันสักอันสองอันเลยดีกว่า รับรองว่าไม่มีพลาดแน่นอนค่ะสาว ๆ ^^

อ่านต่อเพิ่มเติม
https://women.kapook.com/view142034.html







วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

การล้างหน้าอย่างถูกวิธี

           
        

4 ขั้นตอนเพื่อการล้างหน้าอย่างสะอาดถูกต้อง



 เคยคิดกันมั้ยคะว่าทำไมผิวหน้าของเราจึงมักมีสิวขึ้นกันบ่อยครั้ง สาเหตุส่วนหนึ่งก็คือ การที่เราล้างหน้าไม่สะอาดหมดจดนั่นเอง และการล้างหน้าให้สะอาดถูกต้องเราก็ต้องมีวิธีการล้างเช่นกัน ดังนั้น สาวๆ ที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหันมาทำความเข้าใจขั้นตอนของการล้างหน้าให้สะอาดถูกต้องตามวิธีที่เราหยิบมาแนะนำกันดังนี้ เนื่องจากมลภาวะทั้งฝุ่นละออง แสงแดด ควันพิษและเครื่องสำอางที่เราใช้แต่งหน้ากันอยู่ เมื่อเวลาผ่านนานไปก็ย่อมเกิดเป็นสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน หากล้างไม่หมดจดสิวย่อมขึ้นหน้าสวยๆ ของคุณแน่นอน ดังนั้น รีบมาดูขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกต้องไปพร้อมกันเลยค่ะ







4 ขั้นตอนเพื่อการล้างหน้าอย่างสะอาดถูกต้อง


1. ล้างเครื่องสำอางออกก่อนเสมอ                                                                                        ผู้หญิงเรามักนิยมแต่งหน้าออกจากบ้านทุกครั้ง หลังกลับมาถึงบ้านแล้วควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดเสมอด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับล้างคราบเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจดเกลี้ยงเกลาแท้จริง จากนั้นจึงทำการล้างหน้าต่อไปตามปกติ









2. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเราไว้ก่อน สาวคนไหนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งยิ่งต้องใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีค่าความอ่อนโยนต่อผิวให้มากเข้าไว้








3. วิธีล้างหน้าอย่างถูกต้อง
วิธีการล้างหน้าอย่างถูกต้อง ควรเลือกล้างด้วยอุณหภูมิน้ำปกติหรือหากสาวคนไหนแต่งหน้าจัดอาจเลือกล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นก่อนเปิดขยายรูขุมขน สิ่งสกปรกจะได้หลุดออกมาจากนั้นบีบครีมโฟมลงบนฝ่ามือถูวนให้ทั่วจนเกิดฟอง แล้วจึงนำมาถูบนผิวหน้าเราให้ทั่วถึง เมื่อมั่นใจว่าถูจนทั่วและสะอาดดีแล้วจึงล้างหน้าออกด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา จากนั้นล้างปิดท้ายด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดกระชับรูขุมขนอีกครั้ง



4. ทาครีมบำรุงผิวทันทีหลังจากล้างหน้าเสร็จแล้วควรซับหน้าเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูผืนนิ่ม และหากสาวๆ คนไหนที่คิดว่าคราบสิ่งสกปรกยังหลุดออกไม่หมดก็สามารถเช็ดด้วยโทนเนอร์ซ้ำอีกครั้งได้ แต่ควรเลือกประเภทที่ไร้แอลกอฮอล์ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงขึ้นได้ แนะนำให้ใช้ประเภทที่มีส่วนผสมจากมอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ เพื่อบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นไปพร้อมกัน และที่สำคัญอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับผิวคุณทันที เพียงเท่านี้การมีหน้าใสไร้สิวก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วค่ะ








  เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิธีการล้างหน้าอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันผิวหน้าให้ห่างไกลจากปัญหาสิว ใครที่เคยมีสิวขึ้นกวนใจกันบ่อยๆ อาจจะมีสาเหตุหลักจากการที่เราล้างหน้าไม่สะอาดถูกต้องก็เป็นได้ แต่เมื่อคุณได้ทราบกันดังนี้แล้ว ก็อย่าลืมนำวิธีจากเราไปใช้กันนะคะ รับรองผิวหน้าของสาวๆ จะต้องขาวกระจ่างใสและมีสุขภาพดีน่ามองอย่างแน่นอนค่ะ 💕


อ่านต่อเพิ่มเติม 





สาธิตการเรียน เพียรแก้ปัญหา    ก้าวหน้าปฏิบัติ การพัฒนาการศึกษาถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่...